เล่มสุดท้ายแล้ว ถึงเวลาต้องเผชิญหน้ากับบอสใหญ่เสียที แต่เอาเข้าจริงแม้เล่มนี้จะเป็นเล่มจบ ความเข้มข้นและความเร้าอารมณ์ก็ไม่ได้พิเศษไปกว่าเล่มก่อนหน้า ทั้งที่ควรจะปิดฉากตำนานให้นักอ่านประทับใจและยกย่องให้เป็นวรรณกรรมเยาวชนในดวงใจ
พออ่านจบทั้ง 5 เล่มแล้ว ผมรู้สึกว่าสามารถนำทุกเล่มมารวมเป็นเล่มเดียวได้ การได้อ่านรวดเดียว น่าจะร้อยเรียงเรื่องราวได้เห็นภาพต่อเนื่องง่ายยิ่งขึ้น แต่หากมองว่าการแยกย่อยเป็น 5 เล่ม เพื่อให้เด็ก ๆ ที่สมาธิในการอ่านยังไม่สูง ตัดสินใจหยิบเล่มนี้มาอ่านได้ง่ายขึ้นก็มองแบบนั้นได้เหมือนกัน
โดยรวมผมว่าหนังสือชุดนี้ดูน่าสนใจ ปูเรื่องมาดี ชวนให้ติดตามและจินตนาการถึงโลกลึกลับที่มนุษย์ธรรมดามองไม่เห็น แต่พออ่านไปเรื่อย ๆ รู้สึกว่าผู้เขียนสร้างโลกในเรื่องออกมาได้ไม่ยิ่งใหญ่พอ ผมคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าที่จินตนาการไว้ แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นโลกเล็ก ๆ ในสวนหลังบ้าน ที่มีคนเข้าไปเกี่ยวข้องแค่ไม่กี่คน
หนังสือชุดนี้เหมาะกับเป็นนิทานก่อนนอน เล่าให้เด็ก ๆ ฟังสั้น ๆ สัปดาห์ละ 1 เล่ม ไม่ใช่มหากาพย์สุดยิ่งใหญ่ จนถึงขนาดเรียกว่า chronicles ได้ หนังสือชุดนี้เก่ามาก ๆ แล้ว ผมเห็นครั้งแรกตอน ม.ต้น ประมาณเกือบ 20 ปีที่แล้ว ปัจจุบันถ้าใครอยากอ่าน ต้องซื้ออ่านจาก Amazon Kindle เท่านั้นครับ
ด้านล่างนี้ผมขอสรุปเรื่องราวในเล่มไว้สั้น ๆ นะครับ
เหตุการณ์ต่อจากเล่มที่แล้วทันที 3 พี่น้องเดินกลับบ้านในยามเช้าตรู่ เมื่อถึงบ้านพบว่าแม่หายตัวไป สภาพบ้านกระจัดกระจาย พวกเขาพบกับธิมเบิลแท็กซึ่งบอกว่าแม่ของพวกเขาถูกก็อบบลินจับตัวไปที่รังของมุลการาธ ซึ่งอยู่ที่กองขยะชานเมือง โดยที่พวกเขาพากริฟฟินไปด้วย
3 พี่น้องบุกฝ่าก็อบบลินและมังกรชั่วร้าย จนมาถึงที่อยู่ของมุลรากาธ ที่นี่พวกเขาได้พบกับพ่อที่แยกกันอยู่กับแม่ เด็ก ๆ รู้ว่านั่นไม่ใช่พ่อตัวจริง แต่เป็นมุลรากาธปลอมตัว มันจับมัลลอรีและไซม็อน และขู่จาเร็ดให้ยอมสวามิภักดิ์ ไม่อย่างนั้นจะโยนพี่น้องของเขาลงไปในหลุมเศษเหล็ก
จาเร็ดเอาดาบแทงตีนมุลรากาธ มันเซถอยหลังจนตกลงไปในหลุมเศษเหล็ก มัลลอรีและไซม็อนรอดมาได้ ครอบครัวเกรซตัดสินใจรับคุณยายลูซินดาจากโรงพยาบาลให้มาอยู่ที่บ้านกับพวกเขา